สเต็มเซลล์ (Stem cell) คือ เซลล์ต้นกำเนิด สร้างและซ่อมแซมภูมิต้านทานของร่างกาย
สเต็มเซลล์ (Stem cell) คือ เซลล์ต้นกำเนิด เป็นเซลล์ตัวอ่อนที่ยังไม่มีหน้าที่ของเซลล์ ซึ่งสามารถแบ่งตัวได้และเปลี่ยนแปลง เพื่อไปเซลล์อื่นๆที่ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงได้ เช่น เปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์เม็ดเลือด เซลล์เนื้อเยื่อ เซลล์ประสาท
โดยปกติแล้วในร่างกายของเราไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่จะมี Stem cell อยู่แล้ว เพราะในเวลาที่เราบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย เซลล์ของเราก็จะต้องเกิดการบาดเจ็บหรือตายไปด้วย ซึ่ง Stem cell ก็จะทำหน้าที่ซ่อมแซมบาดแผลและสร้างเซลล์ใหม่เพื่อมาทดแทนเซลล์เก่าที่ตายไป เพราะฉะนั้น Stem cell จึงทำหน้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้เราแก่ก่อนวัยตามอายุ
สำหรับ Stem cell ที่มีการนำมาใช้ทางการแพทย์นั้นมีการนำมาจากหลายรูปแบบ ทั้งแบบในเซลล์ของเราเอง (Autologous) ใช้เซลล์ของคนอื่น (Allogeneic) หรือใช้เซลล์ของสัตว์ (Xenotherapy) เช่น Embryonic stem cell ได้มาจากตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้ว , Bone marrow stem cell มาจากไขกระดูก
สำหรับ Stem cell ที่มีการนำมาใช้ทางการแพทย์นั้นมีการนำมาจากหลายรูปแบบ ทั้งแบบในเซลล์ของเราเอง (Autologous) ใช้เซลล์ของคนอื่น (Allogeneic) หรือใช้เซลล์ของสัตว์ (Xenotherapy) เช่น Embryonic stem cell ได้มาจากตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้ว , Bone marrow stem cell มาจากไขกระดูก
ปัจจุบันได้มีการนำ Stem cell มาใช้ในการรักษาโรคหลายอย่าง เช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว รักษาอาการบาดเจ็บของอวัยวะ, ข้อเข่าเสื่อม, เบาหวาน, พากินสัน เป็นต้น ในด้านความงามนั้นก็มีการศึกษาวิจัยและนำ Stem cell มาใช้อย่างมากมายเช่นกัน โดยที่นิยมนำมาใช้ในปัจจุบันได้แก่ เซลล์ต้นกำเนิดของเซลล์ร่างกาย หรือ Mesenchymal stem cells (MSCs) ซึ่งสามารถเก็บได้จากสายสะดือรก, ไขกระดูก หรือไขมัน
.
สเต็มเซลล์ สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์เนื้อเยื่อทั้งหมดได้ถึง 200 กว่าชนิด ทีเดียว จึงเรียกได้ว่าเซลล์ทุกเซลล์มีการพัฒนา มาจากสเต็มเซลล์ นั่นเอง
โดย นพ.ฉัตรชัย ศรีบัณฑิต